Wednesday, December 13, 2006

อัลเบิร์ต ฉันรักคุณ

ลูอี้นั่งเมาอยู่ในร้านเร้ดพีค็อค บาร์เทนเดอร์ยื่นแก้วเหล้าให้แล้วพูดว่า “ในเมืองนี้มีคนที่บ้าๆ เหมือนคุณ อยู่คนหนึ่ง” “จริงรึ?” ลูอี้ถาม “จริงสิครับ” “ตอนนี้เธอก็อยู่ที่นี่ด้วย” บาร์เทนเดอร์พูดต่อ “จริงรึ?” ลูอี้ถามอีก “เธอนั่งอยู่นั่น สวมชุดสีฟ้า รูปร่างเธอดีนะครับ แต่ไม่มีใครนั่งใกล้เธอเพราะว่าเธอเป็น บ้า” “จริงรึ?” ลูอี้พูด
ลูอี้หยิบแก้วเหล้าเดินไปนั่งใกล้เธอ “หวัดดี” ลูอี้เริ่ม “หวัดดี” เธอพูด ทั้งคู่นั่งข้างกันโดย ไม่พูดอะไรต่อ
ไมร่า (ชื่อของเธอ) ลุกขึ้นเดินไปหลังบาร์โดยไม่บอกกล่าว เธอถือขวดเหล้าเดินกลับออกมา ชูขวดทำท่าจะขว้างใส่กระจกหลังเคาน์เตอร์ ลูอี้คว้าแขนเธอเอาไว้ “อย่า อย่า อย่า, ที่รัก” หลังจากนั้น บาร์เทนเดอร์แนะให้เธอกลับบ้าน เมื่อเธอกลับ ลูอี้กลับออกไปกับเธอด้วย
ไมร่าและลูอี้หยิบขวดเหล้าที่เหลือค่อนขวดติดมือไป พวกเขาขึ้นรถประจำทางไปบ้านลูอี้, อพาร์ตเม้นต์เดอะเดลซี่อาร์ม เมื่อขึ้นรถได้ ไมร่าถอดรองเท้าข้างหนึ่ง (ส้นสูง) พยายามเอารองเท้าฟาด หัวคนขับรถ ลูอี้เหนี่ยวตัวไมร่าเอาไว้ด้วยแขนข้างเดียว อีกข้างกุมขวดเหล้าไว้แน่น การกระทำนั่นส่งผล ให้พวกเขาต้องลงจากรถแล้วต้องเดินไปยังบ้านลูอี้
ทั้งคู่เข้าลิฟต์และไมร่าเริ่มกดปุ่มมั่วไปหมด ลิฟต์เลื่อนขึ้น เลื่อนลง เลื่อนขึ้นแล้วหยุด เธอถามลูอี้ “คุณอยู่ชั้นไหน” ลูอี้ตอบ “ชั้นสี่ อพาร์ตเม้นต์หมายเลขสี่”
ไมร่ายังคงกดปุ่มสะเปะสะปะขณะที่ลิฟต์เลื่อนขึ้นลง “ฟังนะ” เธอว่า “เราเล่นแบบนี้กันนาน แล้ว ฉันอยากฉี่น่ะ” “ได้สิ” ลูอี้พูด “เรามาตกลงกัน คุณช่วยผมกดลิฟต์แล้ว ผมก็ให้คุณฉี่ได้”
“ได้” เธอพูดแล้วดึงกางเกงในลง จากนั้นนั่งยองๆ ปล่อยน้ำเป็นทาง เธอมองน้ำไหลผ่านพื้น ลิฟต์ ลูอี้กดปุ่มเลขสี่และลิฟต์เลื่อนขึ้น พอดีกับไมร่าฉี่เสร็จและดึงกางเกงในขึ้นสวมพร้อมจะเดินออก จากลิฟต์
พวกเขาเดินเข้าห้องลูอี้ ไมร่าเปิดขวดเหล้าออก ทั้งคู่นั่งห่างกันราวสิบฟุต ลูอี้นั่งเก้าอี้ริมหน้าต่าง ส่วนไมร่านั่งบนเก้าอี้นวม ทั้งคู่ต่างเริ่มดื่มเหล้า
ผ่านไปสิบห้าถึงยี่สิบนาที ไมร่ามองเห็นขวดเปล่าหลายใบวางบนพื้นข้างเก้าอี้นวม เธอหยิบ มันขึ้นมา หรี่ตาเล็งแล้วขว้างใส่หัวลูอี้ เธอขว้างไม่ถูกเลย ขวดบางใบลอยออกไปนอกหน้าต่าง บางใบ กระทบผนังแตกกระจาย น่าพิศวงที่ขวดบางใบกระทบผนังแล้วไม่แตก ไมร่าหยิบขว้างใส่เขาอีกครั้ง กระทั่งขวดหมด
ลูอี้ปีนออกหน้าต่างข้ามไปยังหลังคาด้านหลัง เขาเดินเก็บขวดถือจนเต็มมือก่อนปีนกลับเข้า มาเอาขวดให้ไมร่า เขาวางขวดไว้ข้างเท้าเธอ จากนั้นกลับไปนั่งริมหน้าต่าง รินเหล้าดื่ม เธอขว้างขวดใส่ เขาอีกครั้ง เขาดื่มแล้วดื่มอีกกระทั่งจำอะไรไม่ได้...

ในตอนเช้า ไมร่าตื่นนอนก่อน เธอลุกจากเตียงไปชงกาแฟให้ลูอี้ “เอาล่ะ” เธอบอกเขา “ฉันอยากไปหาเพื่อนฉัน, อัลเบิร์ต เขาเป็นคนที่เยี่ยมยอดมากเลยนะ”
ลูอี้ดื่มกาแฟหมด แล้วทั้งคู่ก็ร่วมรักกันอย่างดูดดื่ม ลูอี้มีหูดเม็ดใหญ่ที่เหนือตาข้างซ้ายด้วย เขาลุกจากเตียงไปสวมเสื้อผ้า “โอเค” เขาว่า “ไปกันได้แล้ว”
ทั้งคู่ลงลิฟต์แล้วเดินไปยังถนนอัลวาราโด จากนั้นขึ้นรถบัสไปทางเหนือ หลังจากนั่งรถได้ราว ห้านาที ไมร่าลุกขึ้นกดกริ่ง ทั้งคู่ลงรถแล้วเดินไปอีกครึ่งช่วงตึกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์เก่าทาสีน้ำตาล เดินขึ้นบันไดไปอีกทอดหนึ่ง ถึงตรงหัวโค้งห้องโถง ไมร่าหยุดอยู่หน้าห้อง 203 เธอเคาะประตู ได้ยิน เสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา จากนั้นประตูเปิดออก “หวัดดีอัลเบิร์ต” “หวัดดีไมร่า” “อัลเบิร์ต ฉัน อยากให้คุณรู้จักลูอี้ ลูอี้นี่อัลเบิร์ต” ทั้งคู่จับมือกัน
อัลเบิร์ตมีมือสี่ข้าง อีกทั้งยังมีแขนสี่ข้างด้วย แขนสองข้างคู่บนสอดอยู่ในแขนเสื้อ ส่วนอีก สองข้างสอดออกจากรูใต้แขนเสื้อ
“เข้ามาก่อนสิ” อัลเบิร์ตบอก มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้า อีกข้างคีบบุหรี่ ข้างที่สามถือหนังสือพิมพ์ มือข้างที่จับมือกับลูอี้ไม่ได้ถืออะไร ไมร่าเดินเข้าครัวหยิบแก้วมายื่นให้ลูอี้พร้อมกับรินเหล้าจากขวดใน กระเป๋าถือของเธอลงไป เธอนั่งลงแล้วยกขวดเหล้าขึ้นกระดก
“คุณคิดว่ายังไง?” เธอถาม
“ถึงจะเจอเรื่องอันตราย แต่คุณผ่านมาได้และก็ยังมีชีวิตอยู่” ลูอี้พูด
“อัลเบิร์ตข่มขืนคนอ้วน” ไมร่าอธิบาย “คุณจะเห็นแขนทั้งหมดของเขาโอบรอบตัวเธอ คุณ ดูน่าทุเรศนะ, อัลเบิร์ต”
อัลเบิร์ตครวญด้วยสีหน้าหดหู่
“อัลเบิร์ตไปเมามายนอกคณะละครสัตว์ ข่มขืนผู้หญิงและก็เมาอยู่นอกคณะละครสัตว์ห่าเหวนั่น ตอนนี้เขากำลังดีขึ้น”
“จะยังไงก็เถอะ ผมทนทำตัวเข้ากับสังคมไม่ได้ ไม่มีใครต้องการผม ผมไม่อยากจะทำตัว กลมกลืนกับคนพวกนั้น ไม่มีความซื่อสัตย์ ไม่จริงใจ”
อัลเบิร์ตเดินไปโทรศัพท์ เขาถือหูโทรศัพท์ด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างถือตารางแข่งม้า ข้างที่สาม คีบบุหรี่ ส่วนข้างสุดท้ายถือแก้วเหล้า
“แจ็คหรือ? เออ นี่อัลเบิร์ตนะ ฟังดีๆ ผมเอาครันชี่เมนเข้าที่หนึ่งสองครั้ง แล้วก็....”
อัลเบิร์ตวางสายไป “ผมทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ”
“คุณไปที่สนามม้าได้ยังไง, อัลเบิร์ต?” ไมร่าถาม
“ผมมีสี่สิบเหรียญ แล้วก็จะพนันม้าตัวใหม่ ผมนึกถึงมันขึ้นมาในคืนที่ผมนอนไม่หลับ ภาพ ชัดเหมือนดูหนังสือเลยล่ะ ถ้าผมทำเฉยเสีย พวกเขาก็ไม่มาสนใจผม ที่จริงผมสามารถไปที่สนามม้าและ เล่นเดิมพันได้ แต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไร, อัลเบิร์ต?”
“เห็นแก่พระเจ้าเถอะ...”
“คุณหมายถึงอะไร, อัลเบิร์ต?”
“มีผู้คนมองผม! ให้ตายเถอะ คุณไม่เข้าใจเหรอ?”
“ขอโทษที, อัลเบิร์ต”
“ไม่ต้องมาขอโทษหรอก ผมไม่ต้องการความเห็นใจ”
“ก็ได้ ไม่เห็นใจก็ได้”
“ผมอยากจะตบขี้ให้กระเด็นออกจากหัวคุณ จะได้ฉลาดขึ้นบ้าง”
“ผมพนันให้คุณตบขี้ออกจากหัวผมเลย ใช้มือทั้งสี่ข้างนั่นแหละ”
“อย่ากดดันผมนะ” อัลเบิร์ตว่า
เขาดื่มหมดแก้วแล้วเดินไปผสมเหล้ามาใหม่ จากนั้นเดินกลับมานั่ง ลูอี้ไม่ได้พูดอะไร และ เขาคิดว่าควรจะพูดอะไรออกมาบ้าง
“คุณน่าจะไปต่อยมวยนะ, อัลเบิร์ต มืออีกสองข้างของคุณคงน่ากลัวพิลึก”
“อย่าทำตลกน่า ไอ้ตูด”
ไมร่าเทเหล้าให้ลูอี้ พวกเขานั่งล้อมวงแต่ไม่พูดคุยกัน อยู่ๆ อัลเบิร์ตก็จ้องมา เขามองไปที่ไมร่า “เธอเอากับไอ้หมอนี่เหรอ?”
“เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำ, อัลเบิร์ต ฉันรักคุณ คุณก็รู้นี่”
“ผมไม่รู้อะไรเลย”
“คุณรู้ว่าฉันรักคุณ, อัลเบิร์ต” ไมร่าเดินไปนั่งบนตักอัลเบิร์ต “คุณอารมณ์รุนแรง ฉันไม่ อยากสงสารคุณหรอก ฉันรักคุณ”
เธอจูบเขา
“ผมก็รักคุณที่รัก” อัลเบิร์ตพูด
“รักมากกว่าผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า?”
“มากกว่าผู้หญิงทุกๆ คน”
ทั้งคู่จูบกันอีกหน เป็นจูบที่รุนแรงยาวนาน สำหรับลูอี้แล้วมันเกินไป เขานั่งดื่มเหล้าอยู่พลาง เอามือลูบหูดเหนือตาข้างซ้าย พลัน, ลำไส้เขาบิดตัวโครกคราก เขาเดินเข้าส้วมนั่งปล่อยทุกข์ช้าๆ เมื่อ เขาเดินออกมา ไมร่ากับอัลเบิร์ตยังคงยืนจูบกันอยู่กลางห้อง ลูอี้นั่งลงหยิบขวดเหล้าขึ้นมาส่องดู มือ สองข้างของอัลเบิร์ตกอดตัวไมร่า ส่วนมืออีกสองข้างก็ถกกระโปรงเธอขึ้นมาถึงเอวพลางล้วงเข้าใต้กางเกงใน ตอนที่กางเกงในหล่นมาที่พื้น ลูอี้เอาขวดวางบนพื้นแล้วลุกขึ้นเดินออกไป

เขากลับไปที่ร้านเร้ดพีค็อค เข้าไปนั่งตรงที่นั่งประจำ สักพักบาร์เทนเดอร์ก็เดินมา
“ดีเลย, ลูอี้ คุณทำอะไรมาบ้าง?”
“ทำอะไรมา?”
“กับผู้หญิงคนนั้น”
“กับผู้หญิงคนนั้น?”
“คุณออกไปด้วยกันนี่ คุณได้เธอหรือเปล่า?”
“ก็ไม่เชิง...”
“แล้วมันเป็นอะไรล่ะ?”
“แล้วมันเป็นอะไรล่ะ?”
“เออสิ แล้วมันเป็นอะไรล่ะ?”
“เอาเหล้าให้ผมแก้วหนึ่ง”
บิลลี่เดินไปชงเหล้าแล้วหยิบกลับมาให้ลูอี้ ไม่มีใครพูดอะไร บิลลี่เดินไปยืนอีกด้านของบาร์ ลูอี้หยิบเหล้ามาดื่มไปครึ่งแก้ว เป็นเหล้าที่รสชาติดี เขางัดบุหรี่มาสูบ มือข้างหนึ่งคีบบุหรี่ส่วนอีกข้าง หนึ่งถือแก้วเหล้า อาทิตย์กำลังตกดิน ลำแสงส่องผ่านจากถนนเข้ามาทางประตูร้าน ไม่มีหมอกอยู่ข้าง นอกเลย มันน่าจะเป็นวันที่สดใส และมันน่าจะดีกว่าวันอื่นๆ ที่ผ่านมา.

พิมพ์ครั้งแรก LUSh เล่ม 1
แปลจากเรื่อง I Love You Albert
ชาร์ลส์ บูคาวสกี้ เขียน
อัสกัณ รามาสูร แปล

No comments: