Wednesday, April 15, 2009

นิตยสารลัช เลื่อนออก

ถึงสมาชิก และมิใช่สมาชิก
ผมขอเลื่อนการออกนิตยสารออกไปอีกเป็นครั้งที่สอง สาเหตุจาก ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความผันผวนทางการเงิน การเสี่ยงลงทุนกับหนังสือที่มีคนสนใจกลุ่มน้อย จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าในสังคมขาดพร่องปัญญาอย่างสังคมไทย
พูดง่ายๆ ไม่มีเงินทุนผลิต ไม่มีเวลาที่จะให้ความเข้มข้นกับการทำนิตยสาร
ข่าวคราวความคืบหน้า จะนำมารายงานต่อไปครับ
บรรณาธิการ

Wednesday, April 09, 2008

LUSh ฉบับที่ 8



ลัช เล่ม 8 ฉบับคร่อมข้ามวัฒนธรรม
เรื่องของญี่ปุ่นเกี่ยวพันกับไทย สัมภาษณ์ โมโมโกะโมชั่น เจาะลึกก่อนเธอกลับญี่ปุ่น
มูราคามิ ปะทะ มูราคามิ ใครแน่กว่ากัน
ศิลปินรุ่นยาย ยาโยอิ คุซามา
โซระ อาโออิ กับธุรกิจหนังเอวี

Friday, October 19, 2007

ลัช 7 ฉบับศิลปะฟักการเมือง



โอย รอมานาน ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกอีกครั้ง
ลัชเล่มใหม่ เล่ม 7 แล้ว ถึงจะใช้เวลานานเราก็ออกนะ
ฉบับนี้เล่นเรื่องการเมืองรับเดือนตุลา เดือนแห่งการเมืองระอุสองช่วงปี

สัมภาษณ์วสันต์ สิทธิเขตต์ ศิลปินที่ยึดแนวทางศิลปะเพื่อสังคมมาอย่างยาวนาน (ศิลปาธร สาขาทัศนศิลป์ ปี 2550)
เรื่องของพร็อพาแกนดา สงคราม การเมือง
สัมภาษณ์สินธุ์สวัสดิ์ ยอดบางเตย สมาชิกแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ผู้ทำงานศิลปะต้านการเมือง(เลว) มาตั้งแต่ตุลาคม 2516
แอนเจลา เดวิส, วินเซนต์ กัลโล ก็มากะเขาด้วย
คอลัมน์อื่นๆ ก็เต็มเพียบด้วยสาระครบครัน

Sunday, May 13, 2007

It's raining

ไม่รู้ว่าอะไรดลให้ฝนตกติดต่อกันหลายวัน
ปลวกที่อยู่ในดินก็เลยเฮโลสร้างไฮเวย์เข้าบ้าน
เลยต้องจัดการเขี่ยๆ แล้วพ่นยาเสียหน่อย
อันที่จริงมันก็ไม่ได้มีจำนวนมากมายหรอก
แต่ลองมันได้รู้ทางเข้าแล้ว
ครั้งต่อไปมันก็ยกพลได้ง่ายขึ้น
ห่วงก็แต่กองหนังสือที่อยู่บนพื้น
เพราะถ้าปลวกมันลักลอบมาทางซอกผนังก็คงมองไม่เห็น
ช่วงนี้ก็เลยต้องตรวจตราให้ถ้วนถี่
ยังไม่ถึงขั้นต้องจัดเวรยาม
แต่ว่า แถวไหนมีตัวกินมดขาย ช่วยบอกให้รู้ด้วย
จะไปซื้อมาเลี้ยง

Thursday, April 19, 2007

Gottfried Helnwein - ความหม่นงามในความโหดร้าย


“ผมเรียนรู้ศิลปะจากโดนัลด์ดั๊ก มากกว่าจากสถาบันศิลปะทุกแห่งที่ผมเคยเรียนเสียอีก” เป็นคำพูดของกอตต์ฟรีด เฮลน์ไวน์ศิลปินที่มีงานศิลปะหลากหลาย ทั้งภาพวาดภาพถ่าย ศิลปะจัดวาง ศิลปะการแสดงและเทคนิคการสร้างภาพอีกสารพัด งานศิลปะของเขาแสดงออกถึงความงามอันหม่นหมอง หดหู่ และน่ากลัว

เฮลน์ไวน์เป็นศิลปินร่วมสมัยที่สร้างงานอย่างต่อเนื่อง ช่วงแรกที่เริ่มทำงานศิลปะเขามักเขียนภาพโดยเทคนิคสีน้ำหรือไม่ก็วาดเส้นด้วยดินสอสี ต่อมาก็เริ่มถ่ายภาพและสนใจการสร้างภาพขนาดใหญ่โดยใช้สีน้ำมันและสีอะครีลิค รวมทั้งเทคนิคสื่อผสม

เฮลน์ไวน์เกิดที่กรุงเวียนนา ในปี ค.ศ. 1948 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดได้สามปี ในวัยเด็กเขาพบเห็นแต่ภาพโหดร้ายทารุณ ผลพวงของสงคราม ความย่อยยับของบ้านเมือง ผู้คนพิกลพิการ แทบทุกแห่งไม่มีรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะ ไม่มีเสียงเพลง มีแต่เสียงร่ำไห้สลับกับความเงียบงัน งานศิลปะทุกอย่างถูกกองทัพเยอรมันทำลายพินาศ

แม้เฮลน์ไวน์จะเข้าได้เรียนที่สถาบันศิลปะในกรุงเวียนนา (ที่เดียวกับที่เคยปฏิเสธที่จะรับฮิตเลอร์เข้าเรียน) แต่เขาก็ถูกไล่ออก เนื่องจากเขียนภาพฮิตเลอร์ด้วยเลือดของตัวเองเป็นงานส่งอาจารย์

เขาได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอเมริกันในยุค 50 จากการหลากไหลของวัฒนธรรมหลังสงครามสงบ ทั้งสินค้า ดนตรี ภาพยนตร์หรือแม้แต่การ์ตูนจากดิสนีย์แลนด์ เป็นการเปิดโลกจากด้านหม่นมืดสุดกู่ สู่อีกด้าน เฮลน์ไวน์ถึงกับกล่าวว่าเพิ่งได้พบเจอโลกจริงก็ตอนนี้

งานสำคัญๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเฮลน์ไวน์คือภาพเกี่ยวกับเด็กที่ดูงดงามในความน่ากลัว เขากล่าวว่า เด็กเป็นผู้ที่ถูกกระทำได้ง่ายที่สุด ทั้งจากการล่อลวง ข่มขืน การทำร้าย ภาพเขียนและภาพถ่ายที่ดูเหมือนจริงแต่บิดเบี้ยวเหนือจริงจากความทรมาน รวมทั้งภาพถ่ายปกอัลบั้มวงแรมสไตน์ วงดนตรีเมทัลจากเยอรมัน



เฮลน์ไวน์ขณะวาดภาพ "Head of a child 2" ในปี 1998 เทคนิคสีน้ำมันและอะครีลิคบนผ้าใบ

แม้งานศิลปะของเขาจะเป็นที่ชื่นชอบของคนบางกลุ่ม แต่ก็มีคนอีกกลุ่มที่ไม่ชอบงานของเขา ในช่วงปี 1980 การแสดงงานที่กำแพงเมืองโคโลญน์ ภาพวาดเด็กขนาดใหญ่เรียงยาวกว่าร้อยเมตร ถูกมือมืดกรีดภาพทุกภาพขาดเสียหาย เฮลน์ไวน์ได้นำเทปกาวมาแปะทับแล้วแสดงงานต่อไปตามกำหนดเดิม และอีกครั้งกับการแสดงงานที่เยอรมันที่ภาพเขียนถูกเผาเสียหาย แต่เขากลับไม่ได้ถือโกรธมากนัก กลับคิดว่าเป็นการแสดงศิลปะจัดวางอีกรูปแบบหนึ่ง

เฮลน์ไวน์ได้ร่วมงานกับคนสำคัญมากมายในแทบทุกวงการทั้งแอนดี้ วอร์ฮอล, คีธ ฮาร์ลิ่ง, มิค แจ็คเกอร์, ชาร์ลส์ บูคาวสกี้, วิลเลียม เบอร์โรว์, มาริลีน แมนสัน, ฌอน เพนน์

นอกจากนั้นเขายังออกแบบและจัดแสงเวทีละคร ออกแบบเครื่องแต่งกายโอเปร่าซึ่งได้รับรางวัลด้านการละครหลายรางวัล

ในปี 1990 เฮลน์ไวน์เริ่มนำคอมพิวเตอร์มาสร้างงาน ทั้งใช้เทคนิคผสมกับสีน้ำมัน เขาบอกว่าเขาคำนึงถึงผลที่ออกมามากกว่าจะสนใจในเทคนิคการสร้างงาน เขาจะสร้างงานที่ตอบสนองอารมณ์คนดูงานมากกว่าที่จะเน้นการทำงาน เหมือนกับนักมายากล หากคนดูมุ่งให้ความสำคัญกับวิธีการเล่น มันก็ดูไม่เป็นมายากล

หลังจากอาศัยที่เยอรมันนานกว่าสิบปี เฮลน์ไวน์เริ่มมองหาที่อยู่ใหม่ ในที่สุดเขาก็ย้ายครอบครัวเข้าไปอยู่ในไอร์แลนด์ ช่วงแรกเขาอาศัยอยู่ในดับลิน เมืองหลวงของไอร์แลนด์ แต่หลังจากตระเวนแสดงงานที่สหรัฐอเมริกา เมื่อกลับมาที่ไอร์แลนด์อีกครั้ง เขาจึงย้ายไปอยู่ที่เมืองทิปเพอรารี่ ในบ้านทรงปราสาทหลังใหญ่ที่มีบริเวณกว้างขวางกว่าเดิม ซึ่งเขาใช้เป็นทั้งที่อาศัยและสตูดิโอทำงาน.

Wednesday, April 18, 2007

hot hot heat

This day, I found myself in inferno.
Tomorrow I will be in hell.

Monday, April 16, 2007

Band of Horses

อากาศร้อนกลางสงกรานต์ ไม่มีกะจิตกะใจทำงานเลย วันก่อนติดป้ายไฟไฮเนเก้นหน้าบ้าน เอาไว้สร้างบรรยากาศตั้งวงสุรา
ยามเช้าในวันเงียบสงบ เพราะผู้คนรอบข้างหลบสงกรานต์ไปที่อื่นกันหมด มีเวลาว่างระหว่างดื่มกาแฟ นั่งอ่าน ไร้เลือด (Senza sanque) งานเขียนของอเลซซานโดร บาริกโก ใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมงก็อ่านจบ ทำไมถึงไม่รู้สึกอะไรกับมันก็ไม่รู้ขณะที่คนอื่นที่อ่านแล้วบอกว่ามันดี

อ่านหนังสือเล่มนั้นจบแล้วรู้สึกหนืดๆ เลยนึกถึงเพลงหนืดๆ ของวงนี้ วง Band of Horses วงอเมริกันอินดี้ จากซีแอตเทิ่ล สังกัดค่าย Sup pop



ลองฟัง 3 เพลงนี้ เพื่อสร้างความหนืดด้วยกัน โลกมันน่ามอดไหม้ให้เป็นจุณนัก
วง Band of Horses
- Funeral
- For Wicked Gil
- I Lost My Dingle On The Red Line